เมนู

22. เรื่องภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง [285]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุรูปใด
รูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " นิธาย " เป็นต้น.

ภิกษุเดินทางร่วมกับหญิงแม้ไม่รู้ก็มีโทษ


ได้ยินว่า ภิกษุนั้นเรียนกัมมัฏฐานในสำนักพระศาสดาแล้ว พยายาม
อยู่ในป่า บรรลุพระอรหัตแล้ว คิดว่า " เราจักกราบทูลคุณอันตนได้แล้ว
แด่พระศาสดา " จึงออกจากป่านั้น.
ครั้งนั้น หญิงคนหนึ่งในบ้านตำบลหนึ่ง ทำการทะเลาะกับสามี,
เมื่อสามีนั้นออกไปภายนอก, คิดว่า " เราจักไปสู่เรือนตระกูล " จึงเดิน
ทางไป พบภิกษุนั้นในระหว่างทาง คิดว่า " เราจักอาศัยพระเถระนี้ไป"
จึงติดตามไปข้างหลัง ๆ. แต่พระเถระไม่เห็นนาง.
ครั้งนั้น สามีของนางมาสู่เรือน ไม่เห็นนาง คิดว่า " นางจักไปสู่
บ้านแห่งตระกูลแล้ว" ติดตามไปพบนางแล้วคิดว่า " อันหญิงนี้คนเดียว
ไม่อาจเดินข้ามดงนี้ได้, มันอาศัยอะไรหนอ ? จึงไปได้" ดังนี้แล้วตรวจดู
อยู่ เห็นพระเถระแล้ว คิดว่า " พระเถระนี้จักเป็นผู้พาหญิงนี้ออกไปแล้ว"
จึงขู่พระเถระ.
ครั้งนั้น หญิงนั้นจึงกล่าวกะสามีนั้นว่า " ท่านผู้เจริญนั่น มิได้เห็น
มิได้ร้องเรียกดิฉันเลย, คุณอย่าได้ว่ากล่าวอะไร ๆ กะท่านเลย."

พระเถระถูกสามีของหญิงนั้นตีแต่ไม่โกรธ


สามีนั้น มีความโกรธเกิดขึ้นว่า " ก็เจ้าจักไม่บอกบุคคลผู้พาเจ้าไป
แก่เราหรือ ? เราจักทำกรรมอันสมควรแก่ภิกษุนี้ (แทน) ตัวเจ้าให้ได้."

ด้วยความอาฆาตในหญิง จึงตีพระเถระ แล้วพาหญิงนั้นกลับไป.
ทั่วสรีระของพระเถระได้เป็นปมเกิดขึ้นแล้ว. ครั้นในกาลแห่งพระ-
เถระนั้นมาสู่วิหาร ภิกษุทั้งหลายพากันนวดสรีระ เห็นปมแล้วถามว่า "นี่
อะไร ?" ท่านบอกเนื้อความนั้นแก่ภิกษุเหล่านั้น.
ลำดับนั้น พวกภิกษุถามท่านว่า " ผู้มีอายุ ก็เมื่อบุรุษนั้นประหาร
อยู่อย่างนั้น, ท่านได้กล่าวอะไร ? หรือความโกรธเกิดแก่ท่านไหม ?"
พระเถระกล่าวว่า " ผู้มีอายุทั้งหลาย ความโกรธย่อมไม่เกิดขึ้นแก่เรา."
ภิกษุเหล่านั้น ไปสู่สำนักของพระศาสดา กราบทูลเนื้อความนั้นแล้ว
กราบทูลว่า " พระเจ้าข้า ภิกษุนั้น อันข้าพระองค์ทั้งหลายกล่าวอยู่ว่า
' ความโกรธย่อมเกิดขึ้นแก่ท่านไหม ' ยังกล่าวได้ว่า ' ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย
ความโกรธย่อมไม่เกิดขึ้นแก่เรา,' ภิกษุนั้นกล่าวคำไม่จริง พยากรณ์
อรหัตผล."

พระขีณาสพแม้ถูกตีก็ไม่โกรธ


พระศาสดาทรงสดับถ้อยคำของภิกษุเหล่านั้นแล้ว ตรัสว่า " ภิกษุ
ทั้งหลาย ธรรมดาพระขีณาสพทั้งหลาย มีอาชญาอันวางแล้ว, พระขีณาสพ
เหล่านั้น ย่อมไม่ทำความโกรธในชนทั้งหลาย แม้ผู้ประหารอยู่ " ดังนี้แล้ว
ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
22. นิธาย ทณฺฑํ ภูเตสุ ตเสสุ ถาวเรสุ จ
โย น หนฺติ น ฆาเตติ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
" ผู้ใดวางอาชญาในสัตว์ทั้งหลาย ผู้สะดุ้งและ
ผู้มั่นคง ไม่ฆ่าเอง ไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า, เราเรียกผู้นั้น
ว่า เป็นพราหมณ์."